ประวัติความเป็นมาของ SL-1200
สัญลักษณ์แห่งวัฒนธรรมดนตรี

ระบบเครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบไดรฟ์ตรง
โชคชะตาที่เปลี่ยนอุปกรณ์เครื่องเสียงให้กลายเป็นเครื่องดนตรี
สิงหาคม ปี 1973 ที่ย่านบรองซ์ ในนครนิวยอร์ก ดนตรีแนวใหม่ถือกำเนิดขึ้นในงานปาร์ตี้ริมถนนโดยฝีมือของดีเจชื่อคูลเฮิร์ค คูลเฮิร์คใช้แผ่นเสียงสองแผ่นเล่นท่อนจังหวะของเพลงโดยใช้เทิร์นเทเบิลสองแผ่นสลับและซ้ำๆ กัน เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่เต้นรำ จังหวะอันเป็นเอกลักษณ์ที่เขาสร้างขึ้นนั้นรู้จักกันในชื่อ “เบรกบีต” ซึ่งเป็นพื้นฐานดนตรีของดีเจทั้งหมด อุปกรณ์ที่ทำให้เกิดเทคนิคอันปฏิวัติวงการนี้ก็คือเครื่องเล่นแผ่นเสียงไดรฟ์ตรงคู่หนึ่งของ Technics คูลเฮิร์คมักถูกเรียกว่า “บิดาแห่งฮิปฮอป” และเทคนิคของเขาก็แพร่กระจายไปทั่วบรองซ์และที่อื่นๆ อย่างรวดเร็ว กระแสดังกล่าวพัฒนามาเป็นวัฒนธรรม “ฮิปฮอป” โดยมี 4 แนวเพลงหลัก ดังนี้ แนวเพลงสำหรับเป็นดีเจ พิธีกร/แรป เบรกแดนซ์ และกราฟฟิตี้ ซึ่งแพร่หลายไปทั่วโลก
Technics ได้ออกแบบเครื่องเล่นแผ่นเสียงให้เป็นผลิตภัณฑ์เสียงไฮไฟสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเสียงเพลงอย่างแท้จริง เพื่อให้ได้ "เสียงที่ไพเราะยิ่งขึ้น" Technics จึงพัฒนา "ระบบขับเคลื่อนโดยตรง" ซึ่งแยกออกจากระบบขับเคลื่อนด้วยสายพานและระบบไอเดลอร์แบบทั่วไป การใช้มอเตอร์หมุนแผ่นเสียงโดยตรงทำให้ระบบขับเคลื่อนโดยตรงลดเสียงรบกวนลงได้และมีประสิทธิภาพการหมุนดีกว่าระบบอื่นๆ อีกทั้งคุณภาพเสียงยังดีขึ้นมาก ทนทาน โดดเด่น เนื่องจากไม่ใช้สายพานยาง มีประสิทธิภาพการหมุนที่เสถียรและความทนทานสูง ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมระบบนี้จึงเป็นที่ชื่นชอบของเหล่านักเล่นเครื่องเสียงและดีเจ เครื่องเล่นแผ่นเสียงไดรฟ์ตรงของ Technics ช่วยให้เล่นเพลง DJ สไตล์อิสระที่สร้างสรรค์ในแบบ เบรกบีต ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Technics เปิดตัว SP-10 เครื่องเล่นแผ่นเสียงแบบไดเร็กไดรฟ์เครื่องแรกของโลกในปี 1970 ในปีต่อมา SL-1100 แบบมีโทนอาร์มในตัวก็ออกวางจำหน่าย และหลังจากนั้น จึงเปิดตัว SL-1200 รุ่นแรกที่มีระบบรวมขนาดกะทัดรัดยิ่งขึ้น
ในช่วงเวลานั้น ทีมพัฒนาของ Technics ในญี่ปุ่นเชื่อว่า พวกเขากำลังสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผู้ที่หลงใหลในเสียงดนตรีเพียงเท่านั้น กระทั่งเมื่อได้ทำการวิจัยตลาดในสหรัฐอเมริกา จึงได้ค้นพบว่าเครื่องเล่นแผ่นเสียงนี้มีศักยภาพที่เหนือกว่าความคาดหวังเดิม
ในขณะที่ทีมพัฒนาทำการวิจัยตลาด SL-1200 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าญี่ปุ่นหลายเท่า พวกเขากลับต้องตกตะลึงกับสิ่งที่ค้นพบ SL-1200 ได้รับการใช้งานในสถานการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เช่น ในดิสโก้และคลับต่างๆ ท่ามกลางเสียงคำรามกึกก้องและแสงไฟในห้องมืด ดีเจต่างหมุนแผ่นเสียงย้อนกลับไปข้างหลัง ภาพดนตรีที่พวกเขาได้เห็นนั้นยากจะจินตนาการถึงได้
SL-1200 ได้กลายเป็นมาตรฐานที่สำคัญในวงการดิสโก้และคลับ เนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของวัฒนธรรมดิสโก้และคลับที่กำลังเติบโตได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยระบบที่รวมทุกฟังก์ชันไว้ในขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก พร้อมการหมุนที่มั่นคงและทนทานเพียงพอต่อการใช้งานที่หนักหน่วง สามารถปรับความเร็วในการหมุนของพิทช์ได้ตามต้องการ ทีมพัฒนารู้สึกประหลาดใจอย่างมากเมื่อเห็น SL-1200 ถูกใช้ในวิธีที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นดีเจชื่อดังในอเมริกาเล่นเครื่องเล่นแผ่นเสียงตัวนี้อย่างตั้งใจ ขณะที่ผู้คนกำลังเต้นรำอย่างสนุกสนาน จากนั้นทีมงานจึงตัดสินใจร่วมกันว่า "เราจะพัฒนาเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่สามารถทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายเช่นนี้!"

ความท้าทาย
การสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ไม่กระทบกับการทำงานของดีเจ
ทีมพัฒนาได้ไปเยี่ยมดิสโก้หลายแห่งและสัมภาษณ์ดีเจที่ใช้ SL-1200 ซึ่งผลตอบรับที่ได้รับนั้นน่าประหลาดใจ เพราะดีเจส่วนใหญ่ต่างพอใจกับผลิตภัณฑ์นี้อย่างมาก หลายคนกล่าวว่า "ฉันคุ้นเคยกับการทำงานของ SL-1200 แล้ว ดังนั้นโปรดอย่าเปลี่ยนแปลงมันเลย" การพัฒนาครั้งนี้จึงเป็นความท้าทายที่ยากลำบากสำหรับ Technics เนื่องจากต้องหาวิธีปรับปรุงโดยไม่เปลี่ยนแปลงคุณสมบัติที่ดีอยู่แล้ว ทีมพัฒนาจึงมุ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวิธีการทำงานของดีเจ และประเภทดนตรีที่พวกเขาต้องการเล่น เพื่อคาดการณ์ความต้องการที่ยังไม่ได้พูดออกมา และเพิ่มคุณค่าใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน พวกเขาจำเป็นต้องขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ไปข้างหน้าด้วยความเฉลียวฉลาดและความพยายามร่วมกันของทีมในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ดีเจสร้างกรู๊ฟโดยการจับคู่ BPM ของเพลงให้สอดคล้องกับจังหวะที่แตกต่างกัน เพื่อให้การเล่นเพลงราบรื่นขึ้น ทีมพัฒนาจึงได้เพิ่มช่วงตัวแปรในการควบคุมระดับเสียง พร้อมทั้งเปลี่ยนการควบคุมจากปุ่มหมุนเป็นเฟดเดอร์แนวตั้ง ซึ่งช่วยปรับปรุงการใช้งานอย่างมาก นอกจากนี้ ดีเจยังต้องสามารถขยับและปรับตำแหน่งโทนอาร์มได้อย่างแม่นยำเพื่อให้สามารถกลับเข้าสู่เสียงเพลงได้อย่างแม่นยำ ทีมงานจึงได้พัฒนาโทนอาร์มใหม่ที่มีความสมดุลและความแม่นยำสูงเหมือนกับสเกลที่มีความละเอียด และสามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียดเพื่อให้ตอบสนองความต้องการของดีเจได้อย่างลงตัว และเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ทีมงานยังได้รวมกลไกการปรับแรงกดของเข็มเข้ากับโทนอาร์ม และปรับปรุงการมองเห็นของปุ่มหมุนปรับให้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มไฟป๊อปอัปเพื่อช่วยให้ตรวจสอบปลายเข็มได้ง่ายในสภาพแวดล้อมที่มืด เช่น ในดิสโก้ โดยสามารถกดไฟลงเมื่อไม่จำเป็น เพื่อให้เสียงมีคุณภาพแม้ท่ามกลางเสียงรบกวนจากฝูงชนและแรงสั่นสะเทือนในสภาพแวดล้อม ทีมงานยังพัฒนาฉนวนขนาดใหญ่และตู้ที่มีการสั่นสะเทือนต่ำ ผสมผสานกับแผงหล่อขึ้นรูปที่มีความแม่นยำและยางพิเศษเพื่อแยกแผ่นเสียงออกจากกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ดีเจต่างชื่นชอบการปรับปรุงในส่วนของมอเตอร์เป็นพิเศษ เนื่องจากการผสานรวมระหว่างแผ่นเสียงและมอเตอร์ทำให้การถ่ายทอดแรงหมุนจากมอเตอร์เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา ดีไซน์ใหม่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับดีเจ เนื่องจากการเคลื่อนไหวของดีเจแทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อเสียงที่ได้เลย ดีเจสามารถย้ายเข็มจากกรู๊ฟหนึ่งไปยังอีกกรู๊ฟได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถควบคุมการหมุนทั้งไปข้างหน้าและย้อนกลับของเครื่องเล่นแผ่นเสียงได้อย่างละเอียดเพียงแค่ใช้นิ้วสัมผัสที่ขอบเครื่องเล่น
เครื่องเล่นแผ่นเสียงรุ่น SL-1200MK2 เปิดตัวในปี ค.ศ. 1979 ถือเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องแรกที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในดิสโก้โดยเฉพาะ นี่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงของ Technics ไม่ได้เป็นเพียงอุปกรณ์การเล่นแผ่นเสียงอีกต่อไป แต่กลายเป็น "เครื่องดนตรี" สำหรับดีเจในการสร้างสรรค์เสียงดนตรี
ในช่วงปี 1980 เครื่องเล่นแผ่นเสียง Technics ซีรีส์ SL-1200 ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากดีเจดิสโก้ทั่วโลก ความต้องการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่แนวทางการแสดงออกใหม่ๆ เช่น การสแครชและดนตรีแร็พที่เริ่มเติบโตในช่วงปี 1990 และนั่นทำให้เกิดแนวคิด เทิร์นเทเบิลลิสม์ (Turntablism) ซึ่งเน้นการใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็น "เครื่องดนตรี" สำหรับการสร้างสรรค์ดนตรี

เครื่องเล่นแผ่นเสียง SL-1200 บุกเบิกเส้นทางคลับดนตรี
เมื่อดีเจได้พัฒนาทักษะและวิธีการแสดงออก วัฒนธรรมดนตรีก็ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง นอกเหนือจากฮิปฮอปไปสู่แนวเพลงหลากหลาย เช่น เฮาส์, เทคโน, เร้กเก้, แอซิดแจ๊ส, และ เพลงป๊อป Technics ซีรีส์ SL-1200 ยังคงเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมดนตรี และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองเทรนด์ดนตรีที่เปลี่ยนแปลงไป
ในช่วงปี 1980 วงการดีเจเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากการที่แต่ละดิสโก้มีดีเจประจำ ไปสู่วงการคลับที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยดีเจจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามงานต่างๆ ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออุปกรณ์สำหรับดีเจในแต่ละบูธต้องมีมาตรฐานที่สอดคล้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เครื่องเล่นแผ่นเสียงต้องมีการปรับระดับเสียงที่ละเอียดอ่อนและการสตาร์ตที่ราบรื่นเพื่อให้การแสดงออกมีความต่อเนื่องและสมบูรณ์แบบ จึงทำให้ Technics ซีรีส์ SL-1200 ได้กลายเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาตรฐานในวงการคลับ

Technics ซีรีส์ SL-1200 ได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ SL-1200MK2 ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของดีเจหลายคน รุ่น SL-1200MK3 มีการปรับปรุงมาตรการป้องกันการสั่นสะเทือนที่ดีขึ้น ในขณะที่ SL-1200LTD เปิดตัวในรูปแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นเพื่อเฉลิมฉลองยอดขายที่ถึง 2 ล้านเครื่องทั่วโลก SL-1200MK3D มีการปรับปรุงระบบควบคุมระดับเสียงและการใช้งานที่ง่ายขึ้น
รุ่น SL-1200MK5G ถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของซีรีส์นี้ แม้ว่าตลาดจะเปลี่ยนไปสู่เทคโนโลยีดิจิตอลก็ตาม แต่ SL-1200 ยังคงความนิยมอยู่ ต่อมาในปี 2019 SL-1200MK7/1210MK7 ได้เปิดตัว โดยนำความรู้สึกของ SL-1200MK2 กลับมาใหม่ การเปิดตัวครั้งนี้ได้รับการถ่ายทอดสดผ่าน Boiler Room ที่ลาสเวกัส โดยรวบรวมดีเจชื่อดังจากหลายแนว ทำให้เกิดความฮือฮาในวงการดนตรี และแสดงให้เห็นถึงความนิยมที่ยังคงอยู่ของ SL-1200 ในหมู่ดีเจทั่วโลก

การเพลิดเพลินกับดนตรีไปพร้อมกับดีเจและการสร้างวัฒนธรรมทางดนตรีร่วมกับดีเจ — ซีรีส์ SL-1200 ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่สุดของวงการดนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องเล่นแผ่นเสียง SL-1200 ที่มียอดขายถึง 3.5 ล้านเครื่องในช่วง 35 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นเครื่องยืนยันถึงความชื่นชอบและการสนับสนุนอย่างไม่เปลี่ยนแปลงจากแฟน ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้ว่าการออกแบบและความรู้สึกโดยรวมจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นัก แต่การแสวงหาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและการปรับปรุงอย่างพิถีพิถาได้นำนวัตกรรมมาสู่การเล่นดีเจและฟื้นคืนชีวิตใหม่ให้กับแวดวงดนตรี ด้วยเหตุนี้ SL-1200 จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่ล้ำเลยขอบเขตของอุปกรณ์เครื่องเสียงเพียงอย่างเดียว และเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ดนตรีที่ไม่สามารถปฏิเสธได้


